ดร.ประสิทธิ์ กาญจนศักดิ์ชัย ศิษย์เก่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ เครื่องกล ม.เกษตรศาสตร์ รุ่น E38 เป็นที่รู้จักในฐานะ อาจารย์ นักลงทุนและฟื้นฟูกิจการทั้งในและต่างประเทศ และ นักสะสมงานศิลปะไทยระดับมาสเตอร์พีซ ปัจจุบัน ดร.ประสิทธิ์ กับภรรยา คุณ นิภาพรรณ และลูกชายหญิง น้อง โอม-น้องอัณณ์ อยู่ที่ “บ้านกาญจนศักดิ์ชัย” ในซอยแบริ่ง ใช้ เป็นที่สะสมภาพวาดและปฏิมากรรมฝีมือศิลปินไทยชั้นครูกว่า200 ชิ้น

จากวิศวกรสู่อาจารย์มหาวิทยาลัย
"ผมเกิดในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน บ้านอยู่ รังสิต ผมเป็นคนที่ 6 จาก 10 คน ที่บ้านทำธุรกิจส่งวัตถุดิบ อาหารให้เรือนจำในกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อให้นำไป ประกอบอาหารเอง ในระหว่างเรียน ผมช่วยงานที่บ้านตลอด ครับ” ดร.ประสิทธิ์เล่าอย่างอารมณ์ดี ถึงพื้นเพชีวิตก่อนจะมา เป็นนักธุรกิจ “อยู่บ้านผมมันจับกังดีๆนี่เอง แบกของร่วมกับ คนงาน เตรียมสินค้า จัดทำสต๊อก และเก็บเงินตามเรือนจำที่ เอาของไปส่ง พวกเพื่อนๆที่เรียนด้วยกันไม่ค่อยทราบว่าผม เข้าออกคุกบ่อย” “ไม่ใช่ๆ ผมไปเก็บเงินครับ 555 เก็บเงินลูกค้า”ดร.คนเก่งของเราก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป อายเพื่อนเรื่องที่ต้อง แบกหาม และเข้าออกคลุกคลีคนคุก “มีนักโทษจำนวนมาก รู้จักผมดีเพราะเห็นหน้ากันบ่อย ตอนนี้คงออกมากันเกือบหมด แล้วมั๊ง” นี่ทำให้ช่วงเรียนวิศวะ ดร.ประสิทธิ์มีเวลาอ่านหนังสือ น้อยและขาดเรียนบ่อยครั้ง โดยเฉพาะวิชาตอนเช้า และอีก อย่าง คุณพ่อต้องการให้รับผิดชอบงานที่บ้านสืบทอดธุรกิจ ครอบครัว “เพราะท่านเชื่อดวงมาก ซินแสบอกว่าผมมีดวงทาง ธุรกิจกว่าคนอื่นๆ” ใครจะรู้ว่า ในภายหลังซินแสท่านนี้ดูแม่น จริงๆ

จบ ป.ตรีวิศวะเครื่องกลเพราะชอบเรื่องกลไกและ ระบบการทำงานของเครื่องจักรกล จากนั้น ต่อปริญญาโทMBA Marketing ที่นิด้า ช่วงนี้มีเวลาเต็มที่จึงได้รับรางวัลการ เรียนดีเด่น ก่อนบินไปต่อปริญญาเอก Finance ที่ Boston จบ พร้อมรางวัลเกียรตินิยม เป็นคนเดียวในครอบครัวที่เป็นด๊อก เตอร์เมืองนอก

ดร.ประสิทธิ์ รับจ้างเขียนแผนธุรกิจเพื่อกู้เงิน ธนาคาร ทำ Business Feasibility Study องค์กรระดับSME ไปจนถึง Corporation โดยเน้นความสมดุลย์ 3 ด้าน คือด้านการผลิต (วิศวกรรม) การตลาด และ การเงิน และนี่ เป็นเหตุผลที่เลือกเรียนต่อเอกด้านการเงิน ซึ่งเป็นจิ๊กซอตัว สุดท้าย หลังจากจบ ดร.ประสิทธิ์เป็นอาจารย์ที่นิด้า 5 ปี สอนวิชาการเงิน เป็นเลขาธิการ โครงการร่วม JDBA ของ จุฬา ธรรมศาสตร์ และนิด้า “งานนี้ทำให้ผม รู้จักคนเยอะ อาจารย์เก่งๆจากจุฬา ธรรมศาสตร์ นิด้า รวมทั้ง AIT และ CIDA (Canada) มีนักวิชาการระดับรางวัลโนเบลหลายท่านมาร่วม” ดร.ประสิทธิ์เป็นกลจักรสำคัญในการยก ระดับงานวิจัยในประเทศให้มีการยอมรับในสากลมากขึ้น และในช่วงเดียวกันนี้ ยังดำรงตำแหน่งกรรมการภาครัฐหลาย แห่ง เช่นประธานคณะกรรมการแปรรูปการท่าเรือแห่ง ประเทศไทย รองประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกร คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ที่ ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และที่ปรึกษา รัฐมนตรีมหาดไทย เป็นต้น

จากอาจารย์มหาวิทยาลัยสู่นักธุรกิจ
"ผมเริ่มคิดทำธุรกิจหลังจากสอนหนังสือได้ไม่นาน”ดร.ประสิทธิ์พบปัญหาเดียวกันกับนักธุรกิจ Start Up ส่วน มาก คือขาดเงินทุน “ผมพยายามใช้เงินลงทุนให้น้อยที่สุด ผม เริ่มจากเงินที่เก็บได้จากการทำงาน ไม่เอาเงินที่บ้านมาทำ” โดยเริ่มครั้งแรกด้วยการเข้าไปฟื้นกิจการที่กำลังแย่ ดูความ เป็นไปได้ทางการผลิต การตลาด และวางแผนการเงินให้เงิน จากสถาบันการเงินและความต้องการของเจ้าของเก่าเข้ากัน ให้ได้มากที่สุด “จำได้ว่าเป็นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง พอtake ได้กิจการแรกมา อันนี้ท้าทายมาก มันเป็นของจริงแล้ว ไม่ใช่แค่แผนในกระดาษ” งานแรกนี้ทำในวงเงินกู้ 100 ล้าน บาท ใช้หลักการ Arbitrage ทำให้มีเงินหมุนเวียนเหลือ 10ล้านไปดำเนินธุรกิจ จากนั้นปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจใหม่หมด จนสามารถฟื้นฟูทำกำไรได้ในหนึ่งปี กลายเป็นกิจการใหญ่อยู่ แถวหน้าวงการในเวลา 2 ปี เติบโตต่อเนื่อง จนในปัจจุบัน กำลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ดร.ประสิทธิ์ เข้าซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ เช่น C.M. MANUFACTURING ผลิตโครงสร้างบ้านให้กลุ่มSCG-Sekesui บริษัทอันดับต้นของญี่ปุ่น เป็นตัวแทน บริษัท นิชชิน สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของญี่ปุ่น ทำเหล็กเคลือบ นวัตกรรม ZAM เคลือบเหล็กด้วย Zinc Aluminium และMagnesium ปัจจุบันมีใช้อย่างกว้างขวางในฟาร์มปศุสัตว์ โครงโซล่าเซลล์ โครงเหล็กสร้างบ้าน และได้ซื้อกิจการต่างๆ อีกเช่น 1) บริษัท ไทยแลนด์ ไอออน เวิร์ค จำกัด (มหาชน) ผู้ ผลิตสังกะสี และ แผ่นเหล็กมุงหลังคา ภายใต้ยี่ห้อ 3 ดาว และ อีกหลาย Brands, 2) บริษัท Thai Barge Container Service กิจการขนส่ง คลังสินค้า และท่าเรือริมแม่น้ำ เจ้าพระยาโดยซื้อจากกลุ่มSankyuและNYK, 3)บริษัทToyo Solfran Wiz ผลิตแผ่น Sandwich Panel และ สารเคมี แผ่นกันความร้อนในการก่อสร้าง และห้องเย็น โดยซื้อจากSekesui Chemical Japan

”ดีลที่ผมภูมิใจที่สุดคือดีลที่ญี่ปุ่น บริษัท ใหญ่และมีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ตั้งมากว่า 65 ปี ผม ต้องเสนอสู้กับบริษัท SOFTBANK บริษัทการเงิน ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น บริษัท PERI ของ Germanyผู้ผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างอันดับ1 ของโลก”ดร.ประสิทธิ์ชนะและได้เข้าบริหารฟื้นฟูด้วยการ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและนำเสนอกลยุทธ์ ใหม่ และยังไปซื้อบริษัทที่เกาหลี และที่สิงคโปร์ที่ ทำธุรกิจคล้ายๆกันนำมาควบรวมกับบริษัทที่ญี่ปุ่น จนหมด พลิกฟื้นจนมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถกลับเข้าไปในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ปัจจุบันได้ขายหุ้นบริษัทนี้หมดแล้ว สรุปเป็นการ เข้าซื้อ ฟื้นฟู และทำกำไร ครบวงจรการลงทุน เป็นฝีมือ วิศวะนักการเงินมือฉมังจากเมืองไทย ออกไปเอาเงินกลับเข้าประเทศได้อย่างสง่าผ่าเผย

บทบาทนักสะสม
ดร.ประสิทธิ์ เป็นที่รู้จักในวงการศิลปะไทย "ผมเริ่ม สะสมตอนทำธุรกิจสำเร็จแล้ว ศึกษาแล้วรู้สึกสนุก จึงกลาย เป็นการสะสม วันนี้ผมมีภาพวาดร่วม 200 ชิ้น เป็นงาน มาสเตอร์พีซของศิลปินแห่งชาติและบรมครูในอดีต เช่น อ.เฟื้อ หริพิทักษ์ อ.ทวี นันทขว้าง อ.ประเทือง เอมเจริญ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต อ.จำรัส เกียรติก้อง อ.สันต์ สาราก รบริรักษ์ อ.ถวัลย์ ดัชนี อ.จิตร บัวบุศย์ ฯลฯ “ผมมีงานขอ งอ.ประยูร อุลุชาฏะ ด้วยครับ นอกจากท่านจะเป็นศิลปินแห่ง ชาติแล้ว ท่านเป็นโหราจารย์ใช้นามว่า พลูหลวง เทคนิคการ ใช้สีของท่านยอดเยี่ยมและมีพลังมาก ผมมีภาพสีน้ำมัน ปริศนาธรรมของท่าน ยิ่งมองยิ่งเห็นประเด็นธรรมมะซ่อนลึก ลงไปเรื่อยๆ” ดร.ประสิทธิ์สะสมพระเครื่องและพระพุทธรูป เช่นพระสลักไม้สมัยพระเจ้าปราสาททอง พระบูชาประจำ พระองค์พระเจ้าตากสินมหาราช พระบูชาศิลปะปาละอายุ มากกว่าพันปี เทวรูปศิลปะโจละของอินเดียโบราณ และพระ เครื่องต่างๆ

"ชีวิตผมถึงวันนี้ ผมอยากเป็นตัวอย่างให้คนรุ่น หลังในเรื่องการสร้างตัวเอง ในอนาคตผมอยากกลับไปสอน หนังสืออีก ไปถ่ายทอด ไปให้กำลังใจคนรุ่นปัจจุบัน ไปเป็น บทเรียนให้คนรุ่นใหม่ บทเรียนที่ผมมี เงื่อนไขที่ผมเจอ คนรุ่น นี้น่าจะสามารถนำไปใช้ได้ครับ"  นี่คือ อาจารย์ ดร.ประสิทธิ์ กาญจนศักดิ์ชัย ความภูมิใจของรุ่น E38 

และนี่คือตัวอย่างของการส่งบทความเรื่อง ความภูมิใจของแต่ละรุ่น อยากให้ทุกๆคนร่วมส่งกันมาเยอะๆนะครับ